รีวิว Free State of Jones จอมคนล้างแผ่นดิน 

ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์–ดราม่าที่หยิบยกเรื่องจริงอันเข้มข้นของ “นิวตัน ไนท์” ชายชาวไร่ธรรมดาที่ลุกขึ้นต่อต้านความอยุติธรรมในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา กับ Free State of Jones จอมคนล้างแผ่นดิน หนังพาผู้ชมดำดิ่งสู่ยุคที่สังคมถูกแบ่งแยกด้วยสงคราม ชนชั้น และสีผิว พร้อมขยายภาพชีวิตของผู้คนที่ถูกกดขี่จนหมดที่พึ่งพา สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นไม่ใช่เพียงฉากสงครามหรือความขัดแย้งระหว่างฝ่ายเหนือ–ใต้ หากแต่คือมุมมองของ “คนธรรมดา” ที่เลือกจะไม่ยอมจำนนต่ออำนาจที่กดทับพวกเขามาอย่างยาวนาน ผลงานการกำกับของ แกรี่ รอสส์ ที่นำเสนอ นิวตัน ไนท์ ออกมาด้วยความเป็นมนุษย์ที่ทั้งอ่อนแอและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน ระหว่างที่ ดูหนัง จะได้เห็นถึงจุดแตกหักที่ทำให้เขาหันมาลุกขึ้นสู้และก่อตั้ง “รัฐเสรีโจนส์” โดยประกาศว่าแผ่นดินที่เขายืนอยู่จะไม่อยู่ภายใต้อำนาจใครอีกต่อไป ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่ใช่เพียงการเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ หากแต่เป็นบทบันทึกเกี่ยวกับเสรีภาพ ศักดิ์ศรี และการต่อสู้ของมนุษย์ที่ต้องการเพียงความเท่าเทียม เป็นงานที่ตั้งคำถามต่อระบบอำนาจและสะท้อนถึงความกล้าหาญที่เกิดขึ้นจากความสิ้นหวังอย่างแท้จริง

นักแสดง/นำแสดงโดย

• แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ รับบทเป็น นิวตัน ไนท์
• กูกู อึมบาธา-รอว์ รับบทเป็น ราเชล
• มาเฮอร์ชาลา อาลี รับบทเป็น โมเสส วอชิงตัน
• เคอรี รัสเซลล์ รับบทเป็น เซเรน่า ไนท์
• คริสโตเฟอร์ เบอร์รี่ รับบทเป็น แจสเปอร์ คอลลินส์
• ฌอน บริดเจอร์ส รับบทเป็น วิล ซัมรอลล์
• เจคอบ ลอฟแลนด์ รับบทเป็น แดเนียล ไนท์

อ่านเรื่องย่อของ Free State of Jones จอมคนล้างแผ่นดิน 

นิวตัน ไนท์ แพทย์รบในกองทัพสมาพันธรัฐหนีทัพหลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายเหยียดสีผิวคนดำและเห็นการตายของแดเนียล หลานชายตัวเอง ในสมรภูมิที่เมืองโครินธ์ครั้งที่สอง นิวตันนำร่างของแดเนียลกลับบ้านเกิด และได้พบกับเซเรนา ภรรยาของเขาอีกครั้ง เขาชอบพอกับเรเชล ทาสในไร่ใกล้ๆ ซึ่งแอบเรียนรู้การอ่านหนังสือหลังจากที่เธอรักษาอาการป่วยของลูกชายวัยทารกของเขา

เมื่อนิวตันรู้ว่าทหารได้ยึดพืชผล สัตว์เลี้ยง และเสบียงจากเพื่อนบ้านของเขา ทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิดหวังกับสมาพันธรัฐ แม้ว่าส่วนใหญ่จะดิ้นรนเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวอยู่แล้วก็ตาม นิวตันขู่เจ้าหน้าที่สมาพันธรัฐ ร้อยโทบาร์เบอร์ ด้วยปืน เมื่อกองกำลังอาสาสมัครสมาพันธรัฐ ได้รับคำสั่งให้จับกุมเขาในข้อหากบฏ นิวตันจึงต้องหลบหนีและไปใช้ชีวิตแบบชาวนายากไร้ แต่สังคมการขี่จากผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์ก็ได้เข้ามา ทำให้เหล่าชาวนาร่วมมือกันต่อสู้เพื่อรักษาถิ่นทำกินของตนที่เรียกว่า โจนส์ เคาน์ตี้

ดูหนัง รีวิวหนัง Free State of Jones จอมคนล้างแผ่นดิน 

ผู้กำกับ แกรี่ รอสส์ เลือกเล่าหนังในโทนสมจริงแทบทุกเฟรม ไม่มีความหวือหวา แต่เน้นความ “จริง” ทั้งในภาพ สีหน้า และบรรยากาศความเหลื่อมล้ำในยุคนั้น จังหวะหนังอาจจะไม่ได้เร่งเร้า แต่เป็นการค่อย ๆ ซึมเข้าในอารมณ์ เหมือนให้ผู้ชมเดินอยู่ในป่าเดียวกับกบฏ Jones County แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ ส่งพลังการแสดงที่เข้มข้น เต็มไปด้วยชั้นเชิงทางอารมณ์ เขาไม่ใช่วิถีแบบฮีโร่เท่ ๆ แต่เป็นชายที่เหนื่อย ล้า แต่ไม่ยอมจำนน แววตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังผสมความมุ่งมั่น ทำให้ผู้ชมที่ได้ ดูหนัง เชื่อว่าชายคนนี้อยากเปลี่ยนโลกจริง ๆ Free State of Jones จอมคนล้างแผ่นดิน บทหนังวางโครงเรื่องเป็นสายยาวที่กวาดตั้งแต่สงคราม จนถึงการเมือง และการเหยียดผิวหลังสงคราม ซึ่งทำให้ผู้ชมเห็นว่า “การต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมไม่เคยจบลงง่าย ๆ” จุดเด่นคือบทสนทนาที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง โดยเฉพาะคำพูดที่สะท้อนความจริงของชนชั้นล่างในยุคนั้น ภาพของหนังเน้นโทน “เขียวทึม-น้ำตาลหม่น” ให้ความรู้สึกชื้น เหนื่อย และกดดัน ฉากสงครามไม่ได้ทำให้ตื่นตา แต่ทำให้เจ็บ ฉากชีวิตชาวไร่ไม่ได้สวยงาม แต่ทำให้เข้าใจความลำบาก หนังใช้วิธีเล่าควบคู่กันระหว่างเหตุการณ์ในสงครามกลางเมือง กับเหตุการณ์ในยุคหลังสงคราม (คดีความเรื่องการเหยียดผิวรุ่นลูกหลาน) แม้อาจทำให้บางช่วงขาดความลื่นไหล แต่ไทม์ไลน์ที่สลับไปมานี้มีจุดประสงค์เพื่อเน้นว่า “ความอยุติธรรมไม่มีวันหมดไปง่าย ๆ” ซึ่งทำงานได้ดีมากในเชิงสัญลักษณ์